หลายคนคงจำเหตุการณ์รถแก๊สซึ่งแล่นลงมาจากทางด่วนเพื่อเข้าสู่ถนนเพชรบุรีพลิกคว่ำและเกิดการระเบิด ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ในวันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2533 เวลาประมาณ 22.00 น.
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดจากความประมาทของผู้ขับรถ และบริษัท สยามแก๊ส ซึ่งเป็นเจ้าของรถ และมีการดัดแปลงสภาพรถเพื่อนำมาบรรทุกแก๊ส LPG โดยผิดกฏหมาย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อนายสุทัศน์ ฟักแคเล็ก คนขับรถบรรทุกแก๊สของบริษัท อุตสาหกรรมแก๊ส-สยาม จำกัด ได้พยายามขับลงจากทางด่วนเพชรบุรีตัดใหม่ด้วยความเร็วเพียงเพื่อที่จะข้ามผ่านให้พ้นไฟแดง แต่รถกลับเกิดอุบัติเหตุจนพลิกคว่ำไถลไปกับพื้นถนน ทำให้ถังบรรจุแก๊สขนาด 20,000 ลิตร จำนวน 2 ถัง หลุดออกจากตัวรถและปริแตก
แก๊สที่บรรจุอยู่ภายในพวยพุ่งออกมาทั่วทั้งถนน แล้วเมื่อไหลไปเจอกับประกายไฟก็เกิดระเบิดขึ้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหวหลายครั้ง ลูกไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจนกลายเป็นสีแดงฉาน ทำให้บริเวณถนนเพชรบุรตัดใหม่และละแวกใกล้เคียงกลายเป็นทะเลเพลิงไปในพริบตา และลุกลามไปอย่างรวดเร็วจนเป็นวงกว้าง พร้อมกับครอกผู้คนที่อยู่ในรถยนต์บนถนนเส้นนั้น ทำให้หลายรายเสียชีวิตในทันที บางคนที่พอจะตั้งหลักได้ก็พากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากกองเพลิง แต่ส่วนมากอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส จากเปลวไฟทั้งสิ้น
ภาพถนนเพชรบุรีลุกโชนด้วยแสงไฟ ราวกับไฟนรกก็ไม่ปาน ภาพการช่วยเหลือ การหนีเอาตัวรอด การกู้สถานการณ์ รวมไปถึงการลำเลียงศพผู้เคราะห์ร้ายออกจากที่เกิดเหตุ ทั้งที่ติดอยู่ในรถ และที่ติดอยู่ในที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณนั้น
ภาพเจ้าหน้าที่เก็บกู้ศพแบกร่างไร้วิญญาณซึ่งส่วนใหญ่ดำเป็นตอตะโก และคาดบางคนแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองเสียชีวิตเนื่องมาจากเหตุใด ความรุนแรงและรวดเร็วของความเสียหายที่เกิดจากแก๊สระเบิดในครั้งนี้ กินอาณาบริเวณกว้างมากกว่าที่ใคร ๆ จะคาดไว้ สร้างความสลดใจให้กับผู้ที่ได้พบเหตุภาพเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากความเสียหายที่เกิดกับทรัพย์สินแล้ว ความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้ ได้เกิดขึ้นกับร่างกาย ชีวิต และจิตใจของผู้ที่ประสบเหตุ เพียงเพราะสาเหตุ "ความมักง่ายและประมาทเลินเล่อ" ของคนเพียงไม่กี่คน