เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 27 กันยายน 2555
“โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือ
จากข้อมูลจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปัจจุบันโรคหลอดเลือดเป็นสา เหตุการป่วยและเสียชีวิตของ คนไทยสูงเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งและอุบัติเหตุจ ราจร
โดยมีผู้เสียชีวิตปีละประมา ณ 18,000 ราย สาเหตุส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 เกิดมาจากกล้ามเนื้อหัวใจขา ดเลือด จากปัญหาหลอดเลือดไปเลี้ยงห ัวใจตีบตัน พบผู้ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 22,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
จากการศึกษาของสมาคมแพทย์โร คหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบร มราชูปถัมภ์ ร่วมกับสถาบันโรคทรวงอก และหน่วยงานอื่นๆ ทั่วประเทศ 17 หน่วยงาน พบว่า โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบ พลันชนิดรุนแรง มีอัตราการตายสูงถึงร้อยละ 17 ซึ่งสูงกว่าต่างประเทศที่พบ ร้อยละ 7 หรือกว่า 2 เท่าตัว
กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าม ีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ชั่ว โมงละ 2 คน ซึ่งตัวเลข 2 คนนี้ ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง และมีความสำคัญยิ่ง เพราะคนตายมักอยู่ในวัยทำงา นหาเลี้ยงครอบครัว มีคุณค่าต่อครอบครัว เพราะมันเป็นภัยเงียบ มักไม่รู้ตัวหรือมีอาการมาก ่อน หากไม่ดูแลเฝ้าระวังสุขภาพ
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เฉียบพลัน
มีสาเหตุมาจากการตีบตัน แคบลงของหลอดเลือดแดง เนื่องจากมีไขมันและคอเลสเต อรอลไปเกาะที่ผนังของหลอดเล ือด โดยผู้ป่วยจะมีอาการแสดงออก เมื่อมีการตีบตันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ในลักษณะเจ็บแน่นหน้าอกเวลา ออกแรงมากๆ เครียด หรือหลังจากทานอาหารมื้อหนั ก ส่วนมาก 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยจะเจ็ บบริเวณกลางหน้าอก คล้ายมีอะไรบีบรัดหรือกดทับ และอาจร้าวไปที่คอ กราม ไหล่ซ้าย หรืออาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก หน้ามืด อาเจียน ซึ่งอาการเจ็บดังกล่าวหากนั ่งพักจะหายไปเอง
การรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจ ตาย การรักษาที่ผู้ป่วยจะได้รับ
๑. การให้ออกซิเจน
๒. การให้ยาแก้ปวด
๓. การใช้ยาขยายหลอดเลือด
๔. การใช้ยาป้องกันเลือดแข็งตั ว หรือ ยาละลายลิ่ม
๕. การรักษาอย่างอื่น ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป
โดยทั่วๆไปผู้ป่วยต้องได้รั บการรักษาในโรงพยาบาลที่มีแ พทย์เชี่ยวชาญทางโรคหัวใจโด ยเฉพาะผู้ป่วยอาจมีภาวะแทรก ซ้อน เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ ภาวะหัวใจล้มเหลว เกดขึ้นได้ ผู้ป่วยควรจะได้รับการตรวจส ัญญาณชีพจรบ่อยๆ และควรจะได้บันทึกคลื่นไฟฟ้ าหัวใจอยู่ตลอดเวลา
ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคหัว ใจอยู่แล้ว ให้อมยาไนโตรกลีเซอรีน หรือ ไนเตรตใต้ลิ้น แล้วรีบมาโรงพยาบาล
ปัจจัยเสี่ยงต่อโรค
๑. เพศชายอายุ ๔๐ ปี เพศหญิงวัยหมดประจำเดือน
๒. การสูบบุหรี่
๓. ภาวะไขมันในเลือดสูง
๔. ความดันโลหิตสูง
๕. โรคเบาหวาน
๖. อ้วน
วิธีการปฏิบัติเพื่อป้องกัน โรค
๑. ความคุมความดันโลหิตสูง โดยการควบคุมอาหาร และการใช้ยา
๒. หยุดสูบบุรี่
๓. ลดระดับความมันในเลือด โดยเลือกรับประทานอาหารที่ม ีน้ำมันจากสัตว์ น้ำมันมะพร้าว และกะทิ
๔. ปรับปริมาณแคลลอรี่ในอาหารใ ห้พอดี เพื่อให้ได้น้ำหนักตัวที่เห มาะสมกับความสูง
๕. ออกกำลังกายพอประมาณทุกวัน หรืออย่างน้อย ครั้งละ ๒๐ นาที ๓ ครั้งต่อสัปดาห์
๖. ถ้าเป็นเบาหวานความควบคุมน้ ำตาลให้ดี
Mthai News
ขอบคุณข้อมูลจาก thailandindustry.com ,siamhealth.net
โดยมีผู้เสียชีวิตปีละประมา
จากการศึกษาของสมาคมแพทย์โร
กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าม
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
มีสาเหตุมาจากการตีบตัน แคบลงของหลอดเลือดแดง เนื่องจากมีไขมันและคอเลสเต
การรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
๑. การให้ออกซิเจน
๒. การให้ยาแก้ปวด
๓. การใช้ยาขยายหลอดเลือด
๔. การใช้ยาป้องกันเลือดแข็งตั
๕. การรักษาอย่างอื่น ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ
โดยทั่วๆไปผู้ป่วยต้องได้รั
ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคหัว
ปัจจัยเสี่ยงต่อโรค
๑. เพศชายอายุ ๔๐ ปี เพศหญิงวัยหมดประจำเดือน
๒. การสูบบุหรี่
๓. ภาวะไขมันในเลือดสูง
๔. ความดันโลหิตสูง
๕. โรคเบาหวาน
๖. อ้วน
วิธีการปฏิบัติเพื่อป้องกัน
๑. ความคุมความดันโลหิตสูง โดยการควบคุมอาหาร และการใช้ยา
๒. หยุดสูบบุรี่
๓. ลดระดับความมันในเลือด โดยเลือกรับประทานอาหารที่ม
๔. ปรับปริมาณแคลลอรี่ในอาหารใ
๕. ออกกำลังกายพอประมาณทุกวัน หรืออย่างน้อย ครั้งละ ๒๐ นาที ๓ ครั้งต่อสัปดาห์
๖. ถ้าเป็นเบาหวานความควบคุมน้
Mthai News
ขอบคุณข้อมูลจาก thailandindustry.com ,siamhealth.net
