วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

Google+ ไม่เงียบเหงาซะทีเดียว กระโดดโตขึ้นอีกในมีนาคมที่ผ่านมา


ก็น่าจะนับเป็นเวลาสักพักหนึ่งได้แล้ว ตั้งแต่ Google ทำการเปิดตัว Google+ บริการใหม่อารมณ์ social network มาแข่งขันกับเจ้าอื่นๆ แต่มาถึงวันนี้ จำนวนคนเข้าใช้งานก็มีพอสมควร ไม่ได้เงียบเป็นป่าช้าเหมือนหลายๆเจ้า นับแค่ในสหรัฐอเมริกาที่เดียว ก็มีมากถึง 61 ล้านคนแล้วสำหรับเดือนมีนาคม ขึ้นมาจากเดิมจากเดือนกุมภาพันธ์ถึงกว่า 27 เปอร์เซ็นต์
หัวเรือใหญ่ของ Google ที่รู้จักกันดี Larry Page ได้อ้างว่าบริการ  Google+ นี้ มีผู้ใช้งานแบบ “active” user มากกว่า 100 ล้านคนแล้ว แต่คำว่า “active” ที่ว่านี้ ก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ว่าเป็นพฤติกรรมแบบไหน หรือมีวิธีการนับยังไง รายงานอีกด้านจาก ComScore ก็บอกว่าผู้ใช้งาน Google+ ส่วนใหญ่ จะใช้เวลาเล่นเพียงแค่ 3.3 นาทีเท่านั้นบนเว็บไซต์ต่อเดือน โดยเป็นการวัดผลจากเดือนมกราคมที่ผ่านมา

แต่ว่าผลการสำรวจของ ComScore ก็ต้องคำนึงถึง 3 จุดต่อไปนี้ด้วยเหมือนกัน จุดแรกนั้นนับเฉพาะบัญชีผู้ใช้ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น จุดที่สองไม่ได้เป็นการนับรวมเอาการเข้าใช้งานจากมือถือ หรือวิธีการเข้าจากวิธีการอื่นๆ และสาม ตัวเลขการเติบโตดูจะแข็งแรงในอเมริกา แต่ก็ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่จากรูปกราฟจะเห็นมีก้าวกระโดดใหญ่อยู่ 2 ช่วง คือช่วงกันยายน และธันวาคม แต่ในช่วงระหว่างเดือน ตัวเลขการเติบโตค่อนข้างนิ่ง และผลสำรวจที่ได้ว่าในอเมริกาโตขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ สำหรับไตรมาสแรก เพราะช่วงธันวาคมถึงมกราคมนั้นตัวเลขก็นิ่งอีก
ในขณะที่เบอร์หนึ่งอย่าง Facebook ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งอย่าไม่มีใครเทียม นับเฉพาะในอเมริกา เดือนมีนาคมที่เพิ่งผ่านมาก็มียอดเข้าชมทั้งหมด 7 พันล้าน มากกว่า Google+ เป็น 100 เท่าตัวได้ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเลขของ Facebook ก็ดูจะเป็นขาลงอยู่เหมือนกัน เพราะว่านับตั้งแต่ตัวเลขมากที่สุดของเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วจนมาถึงมีนาคม ตัวเลขก็ตกลงไปกว่า 1.3 พันล้าน นับเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็นที่น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด
แต่ก็เหมือนกันกับผลสำรวจ Google+ ของ ComScore ที่เป็นการวัดที่ไม่ได้รวมเอาการเข้าจากมือถือเข้าไปด้วย และนั่นก็ถือว่าไม่ได้นับไปอีกหลายคนเลยทีเดียว เพราะก็อย่างที่รู้ว่า การเข้าใช้งานเครื่องข่ายสังคม หรือ social facebook นั้น ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ทำการเข้าใช้งานจากมือถือพกพาข้างกายเป็ยจำนวนมากทีเดียว
ที่มา: CNET