วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

Windows 8 การเดิมพันครั้งใหญ่ของไมโครซอฟท์


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดให้ดาวน์โหลด Windows 8 รุ่นทดสอบ Consumer Preview ที่เปิดให้สาธารณชนทดสอบในวงกว้าง หลังจากที่เคยออกรุ่นทดสอบรุ่นแรกมาแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2011  (อ่านบทความ Windows 8 คำตอบของไมโครซอฟท์ต่อโลกของ “แท็บเล็ต” ประกอบ)
นับ จากวันนั้นมา ไมโครซอฟท์ก็นำคำติชมของผู้ใช้รุ่นทดสอบไปปรับปรุง และออกมาเป็น Windows 8 Consumer Preview ที่สมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ Windows 8 ยังอีกยาวไกล และเป็นเส้นทางที่ไมโครซอฟท์เดิมพันชะตาชีวิตของบริษัทในอนาคตเอาไว้
ตาม ที่กล่าวไปในบทความตอนก่อน โลกไอทีกำลังเปลี่ยนแปลงจากระบบปฏิบัติการสำหรับ “คอมพิวเตอร์” ที่ใช้เมาส์และคีย์บอร์ดสั่งงาน ไปเป็น “แท็บเล็ต” ที่สั่งงานด้วยนิ้ว ภาพ และเสียง ตลาดเกิดใหม่กลายเป็นโอกาสใหม่ให้บริษัทไอทีหลายรายเข้าช่วงชิง และที่ชัดเจนว่ายึดตลาดสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตได้เบ็ดเสร็จก็คือ iOS ของแอปเปิล และ Android ของกูเกิล
ไมโครซอฟท์ที่เป็นราชาแห่งตลาดคอมพิวเตอร์มา นาน กลับยังไม่มีที่ทางของตัวเองในตลาดแท็บเล็ต ซึ่งทางออกของไมโครซอฟท์ก็คือพัฒนา Windows 8 ที่ใช้ได้ทั้งกับตลาดคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตไปพร้อม ๆ กัน
คำถามก็คือ สุดท้ายแล้ว เราจะสามารถสร้างระบบปฏิบัติการครอบจักรวาล ที่ทำงานได้ดีทั้งบนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตหรือไม่?
ถ้าเราลองแยกผลิตภัณฑ์ไอทีออกเป็น 3 ระดับ คือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์กับคู่แข่งอย่างแอปเปิลและกูเกิล เราจะเห็นความน่าสนใจของยุทธศาสตร์ที่แตกต่างกันมาก
ระดับMicrosoftAppleGoogle
สมาร์ทโฟนWindows Phone 7iOS (iPhone)Android (Phone Mode)
แท็บเล็ตWindows 8 (Tablet Mode)iOS (iPad)Android (Tablet Mode)
คอมพิวเตอร์Windows 8 (Desktop Mode)Mac OS XChrome OS (Browser only)
จะเห็นว่าคู่แข่งของไมโครซอฟท์คือ กูเกิลและแอปเปิล ใช้ระบบปฏิบัติการตัวเดียวกันสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แค่ปรับขนาดหน้าจอให้แตกต่างกันตามการใช้งานเท่านั้น
ส่วนระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ แอปเปิลยังมี Mac OS X สำหรับเครื่องแมคอินทอชของตัวเอง ในขณะที่กูเกิลนั้นไม่เคยมีรากเหง้ามาจากระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์มาก่อน และพยายามใช้แนวคิดใหม่ๆ อย่างการทำ Chrome OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่มีแต่เว็บเบราว์เซอร์ (Chrome) เท่านั้น ไม่สามารถรันโปรแกรมอื่นๆ ได้เลย ถือว่าเจาะตลาดเฉพาะด้วยแนวคิดที่แหวกแนวไปแทน
แต่ไมโครซอฟท์ใช้ยุทธศาสตร์ที่ต่างกันออกไป โดยแยกระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือออกมาเฉพาะคือ Windows Phone ในขณะที่พยายามรวมระบบปฏิบัติการสำหรับแท็บเล็ต (ที่ไมโครซอฟท์ไม่เคยมี) และคอมพิวเตอร์ (จาก Windows 7) เข้ามาไว้ด้วยกันใน Windows 8
เนื่องจากแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์มีรูปแบบการใช้งานที่ต่างกันมาก ทำให้ Windows 8 ต้องแบ่งโหมดการทำงานออกเป็น 2 โหมด คือ โหมดแท็บเล็ตที่เรียกว่า Metro ซึ่งออกแบบมาสำหรับหน้าจอสัมผัสอย่างเต็มที่ และโหมดการทำงานเดสก์ท็อปแบบเดิมๆ ที่หน้าตาเกือบเหมือน Windows 7 แทบทุกประการ
หน้าตาของ Windows 8 โหมด Tablet
จากการทดสอบ เราพบว่าการทำงานในโหมด Metro ของ Windows 8 สามารถทำงานได้ดีบนแท็บเล็ต แต่ก็ต้องใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะด้วย ไม่สามารถนำโปรแกรมที่มีอยู่แล้วมากมายบนแพลตฟอร์มวินโดวส์มาใช้งานได้
ในขณะเดียวกัน หน้าจอโหมด Metro กลับทำงานบนคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ สั่งงานด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดได้ไม่ดีเลย ในการใช้งานบนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรูปแบบเก่า ก็เหมาะที่จะทำงานในโหมดเดสก์ท็อปแบบเก่ามากกว่า (ในทางกลับกัน เราสามารถนำแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์จอสัมผัส ไปทำงานในโหมดเดสก์ท็อปได้ และให้ผลที่ไม่ดีเช่นกัน เพราะโปรแกรมไม่ได้ออกแบบมาสำหรับนิ้วสัมผัส)
ดังนั้นคำถามก็คือ ไมโครซอฟท์คิดถูกแล้วหรือ ที่นำคอมพิวเตอร์ 2 ชนิดที่รูปแบบแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มารวมไว้ในระบบปฏิบัติการเดียวกัน? การใช้งานของมันเลยดูแยกจากกันเหมือนระบบปฏิบัติการ 2 ตัว ที่บังเอิญใช้งานข้ามกันได้ (ในกรณีที่จำเป็น) เท่านั้น
การที่เราไม่สามารถนำแอพแบบเดสก์ท็อปเดิมๆ ไปทำงานในโหมด Metro ได้แม้แต่น้อย (ยกเว้นแอพของไมโครซอฟท์เองไม่กี่ตัว) ทำให้สุดท้ายแล้ว นักพัฒนาต้องเขียนแอพใหม่ขึ้นมาเพื่อโหมด Metro โดยเฉพาะ ทำให้ในอนาคตอันใกล้นี้ ไมโครซอฟท์จะมีแพลตฟอร์มการพัฒนาแอพถึง 3 แบบ ได้แก่
  • สมาร์ทโฟน ใช้แอพสำหรับ Windows Phone ในปัจจุบัน (เขียนด้วยเทคโนโลยี Silverlight) มีประมาณ 70,000 ตัว
  • แท็บเล็ต ใช้แอพที่เขียนขึ้นมาใหม่สำหรับแท็บเล็ต Windows 8 Metro (เขียนด้วยเทคโนโลยี WinRT แบบใหม่) ยังไม่มีแอพอย่างเป็นทางการ ยกเว้นแอพที่เริ่มทดสอบกับ Windows 8
  • คอมพิวเตอร์ ใช้แอพที่เขียนขึ้นมาสำหรับ Windows รุ่นก่อนๆ (เขียนด้วยเทคโนโลยี Win32) มีจำนวนมหาศาล นับตั้งแต่ Windows 95 เป็นต้นมา
การที่มีแพลตฟอร์มจำนวนเยอะเกินไป ทำให้นักพัฒนาสับสน และเขียนแอพเพื่อรองรับแพลตฟอร์มทุกชนิดได้ยาก เพราะต้องทดสอบเยอะกว่าปกติ อันนี้เป็นคำถามว่าไมโครซอฟท์จะทำอย่างไรต่อไป
จากทิศทางของตลาดแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าไมโครซอฟท์อาจจะรวม Windows Phone เข้ากับ Windows 8 Metro ในอนาคต (ด้วย Windows Phone 8) แต่ก็มีคำถามตามมาอีกว่า แล้วแอพแบบเดิมๆ ของ Windows Phone จะเป็นอย่างไรต่อ สามารถทำงานบน Windows 8 Metro ได้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนจากไมโครซอฟท์เช่นกัน
สถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนว่าไมโครซอฟท์พยายามจะแก้ปัญหาเชิงแนวคิดหลายอย่าง ซึ่งมีหลายเรื่องที่ดูจะไปได้ดีและมีอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาใหญ่ ๆ หลายข้อที่ไมโครซอฟท์ต้องรีบแก้ไข ก่อนที่ Windows 8 จะออกรุ่นจริงช่วงปลายปีนี้
และถ้าไมโครซอฟท์ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โอกาสที่ Windows 8 จะล้มเหลวในตลาดแท็บเล็ต แล้วพลอยลามไปถึงตลาดเดสก์ท็อปที่ไมโครซอฟท์ยึดครองมาโดยตลอด ก็มีสูงทีเดียว