หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัว Windows 8 เวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาไปแล้ว
ในงาน "Build Windows" เมื่อประมาณกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดทางไมโครซอฟท์
ก็พร้อมเปิดให้บรรดาผู้พัฒนาซอฟท์แวร์และผู้สนใจได้ดาวน์โหลด Windows 8 เวอร์ชัน
Developer Preview ไปทดลองใช้งานแบบฟรีๆ ผ่านหน้าเว็บ msdn.microsoft.com
พร้อมชูจุดเด่นในเรื่อง UI ที่ทางไมโครซอฟท์พัฒนาขึ้นเองในชื่อ "Metro"
(แบบเดียวกับ Windows Phone 7) และการรองรับระบบมัลติทัชเพื่อแท็บเล็ตอย่างเต็มรูปแบบ
ซึ่งในวันนี้ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์จะมาทำการทดสอบประสิทธิภาพและเจาะลึกรายละเอียด
ของ Windows 8 Developer Preview แบบถึงพริกถึงขิง 2 ตอนเต็มๆ ด้วยกัน
แต่ทั้งนี้ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาหลัก (ตอนที่ 1 ประสิทธิภาพโดยรวม) ทางทีมงาน
จะขอสรุป Keynote รายละเอียดสำคัญของ Windows 8 กันอีกครั้ง
รายละเอียดคร่าวๆ ของ Windows 8 จากงาน "Build Windows"
- Windows 8 จะสามารถใช้แอปพลิเคชันที่รองรับ Windows 7 ได้ทุกตัว
- Windows 8 จะมีมุมมอง 2 รูปแบบคือ Metro Style และ Desktop View
- Windows 8 สามารถใช้งานบนแท็บเล็ตที่ใช้ชิป ARM / PC / Netbook / Notebook
ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสหรือใชัผ่านเมาส์และคีย์บอร์ดแบบเก่าได้
- Windows 8 สามารถทำงานบน Intel ATOM รุ่นแรกที่มีแรม 1GB ได้อย่างราบลื่น
- Windows 8 รองรับฮาร์ดไดร์ฟที่ความจุสูงสุด 256TB
- Windows 8 มีระบบ Multi tasking ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นและจัดสรรหน่วยความจำได้ดีขึ้น
- Windows 8 จะมีไดร์วเวอร์ในตัวที่เพิ่มมากขึ้น
ทำให้ผู้ใช้สามารถนำอุปกรณ์ภายนอกมาใช้งานแบบ Plug and Play ได้ทันที
- Windows 8 ตัวเต็ม (2012) จะมาพร้อม "Windows Store" และ "Live"
**Windows 8 รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบตั้งแต่ตัว Developer Preview เป็นต้นไป**
สเปกขั้นต่ำสำหรับใช้งาน Windows 8 Developer Preview
1 gigahertz (GHz) or faster 32-bit (x86) or 64-bit (x64) processor
1 gigabyte (GB) RAM (32-bit) or 2 GB RAM (64-bit)
16 GB available hard disk space (32-bit) or 20 GB (64-bit)
DirectX 9 graphics device with WDDM 1.0 or higher driver
Taking advantage of touch input requires a screen that supports multi-touch
เริ่มติดตั้ง Windows 8 Developer Preview


มาที่ส่วนแรก สำหรับการติดตั้ง Windows 8 Developer Preview ยังคงคล้ายกับ Windows 7ก่อนหน้า
ซึ่งการติดตั้งสามารถทำได้ง่ายเพียงไม่กี่คลิกจากนั้นก็รอจนระบบติดตั้งเสร็จเรียบร้อย
ก็จะเข้าสู่หน้าการตั้งค่าพื้นฐานต่างๆ ที่อาจมีความแตกต่างจาก Windows 7 เล็กน้อย
กล่าวคือในส่วนของการตั้งค่าพื้นฐานนับตั้งแต่ Personalize ถ้าสังเกตจะพบว่าใน Windows 8
Developer Preview ทางระบบจะบังคับในเราต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ที่ประกอบด้วย Username กับ Password
(สามารถใช้บัญชี Windows Live ล็อกอินได้โดยที่ไม่ต้องสมัครบัญชีใหม่) คล้ายกับ
Google Account บนแอนดรอยด์โฟนหรือแท็บเล็ต โดยที่ผู้ใช้ไม่สามารถข้ามขั้นตอนดังกล่าวได้
เหมือนกับ Windows รุ่นก่อนหน้า ซึ่งตรงจุดนี้คาดว่าการที่ระบบบังคับในเราต้องมีบัญชีของ
ไมโครซอฟท์เองก็เพื่อจะได้ใช้ร่วมกับ Windows Store หรือบริการ Cloud Service อื่นๆ
ของไมโครซอฟท์เมื่อ Windows 8 ตัวเต็มออกวางจำหน่าย
Metro UI & Desktop UI

Metro UI

Desktop UI
หลังจากการตั้งค่าพื้นฐานและบัญชีผู้ใช้ต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว ระบบจะเข้าสู่หน้า Metro UI
พร้อมอนิเมชันสวยงามสไตล์ Windows Phone ที่ผู้ใช้ Windows หลายท่านอาจไม่คุ้นเคยนัก
โดยในหน้า Metro UI ทางไมโครซอฟท์ได้ใส่แอปพลิเคชันตัวใหม่หลากหลายตัวมาให้ผู้ใช้ได้
ทดลองใช้งานกันแบบเต็มๆ โดยการทำงานของ Metro UI หลักๆ แล้วจะมาทำหน้าที่แทนการกดปุ่ม
Start ของวินโดว์รุ่นก่อนหน้า ที่จากเดิมจะเป็นแค่รายชื่อซอฟท์แวร์ให้เราเลือกใช้ แต่ใน Metro UI
แอปฯ หรือซอฟท์แวร์ที่รองรับกับ Windows 8 จะสามารถแสดงผลแบบ Realtime ได้ ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อเราเรียกใช้งานแอปฯ บอกสภาพอากาศครั้งแรกและตั้งค่าเมืองที่เราอาศัยอยู่เรียบร้อยแล้ว
จากนั้นเมื่อเรากดปุ่มออกจากแอปฯ ดังกล่าว ไอคอนแอปฯ บอกสภาพอากาศจะถูกปรับเปลี่ยนให้
เป็นรายการข้อมูลสภาพอากาศแบบ Realtime (ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต) โดยไอคอนแอปฯ บอก
สภาพอากาศจะมีการอัปเดตและเปลี่ยนข้อมูลให้ผู้ใช้เห็น เปรียบเหมือนกับ Widget อัปเดตสภาพ
อากาศในหน้าโฮมของแอนดรอยด์โฟนหรือแท็บเล็ต
นอกจากนั้นการใช้งานแอปฯ บน Metro UI ใน Windows 8 Developer Preview ยังสามารถทำ
Multitasking ได้ เพียงแค่ผู้ใช้เปิดแอปฯ ขึ้นมาหนึ่งแอปฯ และเมื่อผู้ใช้ต้องการเปลี่ยนไปใช้แอปฯ อื่น
ก็เพียงกดปุ่ม Windows ที่คียบอร์ดหนึ่งครั้ง หรือนำพอยเตอร์เมาส์ไปชี้ที่ด้านซ้ายของจอและกดเมาส์
ซ้ายหนึ่งครั้ง ระบบจะทำการสวิตซ์แอปฯ โดยที่แอปฯ ตัวที่ถูกเปลี่ยนยังคงทำงานเป็น Background อยู่
อีกทั้งใน Metro UI ยังสามารถจัดกลุ่มแอปฯ ใหม่ หรือใส่ซอฟท์แวร์จาก Windows 7 ลงไปได้
และการเข้าสู่ส่วนของแถบตั้งค่าแอปฯ ใน Metro UI ส่วนใหญ่จะใช้การคลิกเมาส์ขวาหนึ่งครั้งเป็นหลัก
ส่วนการเลื่อนหน้า (แนวขวาง) ก็เพียงเลื่อนสกอร์เมาส์ขึ้น-ลงเท่านั้น

ใน Metro UI ผู้ใช้สามารถจัดหน้าต่าง กลุ่มของแอปฯ หรือเรียกแถบการตั้งค่าขึ้นมาได้โดยการคลิกเมาส์ขวา
หน้าตา Control Panel แบบใหม่บน Metro UI จะครอบคลุมการใช้งานบนแท็บเล็ตได้อย่างดีเยี่ยม
**สำหรับบทที่ 1 นี้ทางทีมงานจะยังไม่ขอลงรายละเอียดของแอปฯ แต่ละตัว
ซึ่งทางทีมงานลงรายละเอียดของแอปฯ ต่างๆ ใน Metro UI ในบทต่อไป**
แต่ทั้งนี้ใช่ว่าใน Windows 8 จะมีเพียง Metro UI มาให้อย่างเดียว เพราะทางไมโครซอฟท์ได้ใส่หน้า
Desktop UI แบบดั้งเดิมมาให้ด้วย โดยในเวอร์ชัน Developer Preview จะเห็นว่า Desktop UI
ไม่มีส่วนที่แตกต่างจาก
UI เดิมใน Windows 7 แต่จะมีการปรับเปลี่ยนก็เพียงแค่ปุ่ม Start และความสามารถบางอย่าง
ที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น
Desktop UI กับการเปลี่ยนแปลง
Start แบบใหม่

เป็นส่วนที่ทำให้ผู้ใช้ Windows 8 ต้องปรับตัวมากที่สุดเพราะการกด Start ใน Windows 8
จะเด้งเข้าสู่หน้า Metro UI ทันที โดยสำหรับรายละเอียดแถบ Start แบบใหม่
จะประกอบด้วยส่วนของ Search ไว้สำหรับค้นหาแอปฯ ข้อความ ไฟล์เอกสารที่อยู่ในเครื่อง
ของเราหรือผ่านเว็บไซต์ ถัดมาในส่วนของ Share สำหรับไว้ใช้แบ่งปันแอปฯ แนะนำแอปฯ
หรือข้อความไปยังเครือข่ายสังคมหรือแบ่งปันให้ User อื่นในระบบ ต่อมาที่ Device จะเป็นการดู
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เราเชื่อมต่ออยู่ในปัจจุบัน และสุดท้าย Settings เมื่อกดลงไปแล้วจะมีหน้าตาเหมือน
รูปประกอบด้านล่าง

โดยในส่วนของ Settings จากรูปร่างหน้าตา จะเห็นว่าไมโครซอฟท์พยายามออกแบบมา
ให้สามารถใช้งานร่วมกับแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสได้ดี โดยสังเกตเห็นว่าไอคอนที่ปรากฏบนหน้า
Settings ก็มีบรรจุอยู่ที่หน้า Desktop UI อยู่แล้ว แต่สำหรับหน้า Settings ไอคอนเหล่านั้นจะถูกขยาย
ขนาดให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งถ้าใครใช้หน้าจอสัมผัสก็จะกดใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก
ผนวก Metro UI ร่วมกับ Desktop UI ได้

สำหรับคนที่จำเป็นต้องพิมพ์งานหรือใช้งานโปรแกรมบนหน้า Desktop UI แล้วอยากจะใช้แอปฯ จาก Metro UI ให้แสดงในหน้าเดียวกัน ก็สามารถทำได้ ด้วยเทคนิคแบ่งหน้าจอ โดยวิธีการคือ ให้เปิดหน้า Desktop UI กับแอปฯ ที่ต้องการจาก Metro UI ขึ้นมา จากนั้นนำพอยเตอร์เมาส์ไปชี้ที่ขอบจอ จะมีหน้าต่างขนาดเล็กของแอปฯ จาก Metro UI ปรากฏขึ้น จากนั้นให้ผู้ใช้กดเมาส์ซ้ายข้างไว้และลากหน้าต่างแอปฯ ดังกล่าวไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ดังตัวอย่างในรูปประกอบด้านบนก็เป็นอันเสร็จสิ้น
Windows Explorer รูปแบบใหม่เพื่อแท็บเล็ต

Windows Explorer รูปแบบเก่าใน Windows 7

Windows Explorer รูปแบบใหม่ใน Windows 8 Developer Preview

Windows Explorer รูปแบบจะเพิ่ม Toolbar สำหรับจัดการไฟล์ต่างๆ เข้ามา
ต้องถือว่าการเปลี่ยน UI ของหน้า Windows Explorer เข้ามาในครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ตั้งใจจะให้ผู้ใช้แท็บเล็ตสามารถกดคำสั่งในการจัดการไฟล์ได้ง่ายขึ้น คือแต่เดิมเมื่อผู้ใช้ต้องการคัดลอกไฟล์หรือเคลื่อนย้ายโฟลเดอร์ ถ้าผู้ใช้ไม่กด Ctrl+C หรือ Ctrl+V ผู้ใช้ก็ต้องกดเมาส์ขวาแล้วเลือกคำสั่งต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ใช้แท็บเล็ตไม่สามารถทำได้ จึงเป็นเหตุให้ทางไมโครซอฟท์เลยคิดรวมแถบคำสั่งจัดการไฟล์ขึ้นมาเพื่อรองรับกับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ
อีกทั้งเมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์รูปภาพแถบคำสั่งจัดการไฟล์ด้านบนจะมีส่วนของ Picture Tools ปรากฏขึ้นพร้อมความสามารถในการหมุนรูป รวมภาพเป็นสไลด์หรือจะ Set as background ได้ทันทีโดยไม่ผู้ใช้ไม่ต้องเข้าไปจัดการใน Windows Photo Viewer แต่อย่างใด
Picture Password ใช้รูปภาพเป็นรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ


|
|
|